กะเทยบวชพระได้หรือไม่ |
ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )
![]() ![]() |
กะเทยบวชพระได้หรือไม่ |
![]()
โพสต์
#1
|
|
![]() สมเด็จเจ้าพระยา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() กลุ่ม : Moderator โพสต์ : 3,264 เป็นสมาชิกเมื่อ : 30-May 09 จาก : ตรงไหนสักแห่งแถวชายแดนไทย -ลาว หมายเลขสมาชิก : 23 ![]() |
![]() ปวดหัวกับเรื่องตีความ --- พวกที่อยู่ฝ่ายกะเทยมักจะตีความเข้าข้างกันเอง --- พระวินัยห้ามบัณเฑาะก์บวช ก็จะตีความว่าบัณเฑาะก์คือคนที่มีอวัยวะ ๒ เพศ พวกตนไม่มีอวัยวะ ๒ เพศ ย่อมบวชได้ ไม่ผิดพระวินัย โดยที่จะไม่ยอมตีความไปที่เป็นคนมีจิตใจวิปริตสองเพศและมีการล่วงละเมิดทางเพศกับเพศ เดียวกัน --- ระหว่างการสวดอันตรยิกธรรม ขณะทำการอุปสมบท มีคำถามว่า "ปุริโสสิ?" แปลว่า ท่านเป็นบุรุษหรือไม่? คำถามนี้ถามถึงเรื่องการมีอวัยวะ ๒ เพศเท่านั้นหรือ? --- บัณเฑาะก์ แปลว่า กะเทย ยังใช้เรียกผู้หญิงได้ด้วยว่า หญิงบัณเฑาะก์ บางทีสมัยนั้นยังไม่มีการบัญญัติศัพท์เรียกเลสเบี้ยนว่าอะไร กะเทยหรือที่เรียกว่าชายบัณเฑาะก์ คือผู้ที่พอใจให้บุรุษเกี่ยวข้องกับตนโดยมีความรู้สึกตนว่าเป็นเหมือนเป็นสตรี --- อุภโตพยัญชนก เท่านั้นที่แปลว่า คนมีทั้ง ๒ เพศ --- มีการแบ่งแยกบัณเฑาะก์ออกได้ ๕ จำพวก ๑ อาสิตตบัณเฑาะก์ ได้แก่ ชายที่มีกิจกรรมทางเพศกับชายด้วยกัน ๒ อุสุยยบัณเฑาะก์ ได้แก่ ชายที่ไม่ถึงกับมีกิจกรรมทางเพศ แต่เพียงแค่พอใจที่จะชมชอบชายด้วยกัน ๓ โอปักกมิยบัณเฑาะก์ ได้แก่ บุคคลผู้ที่ถูกตอนไปแล้ว เช่นขันที ๔ ปักขบัณเฑาะก์ ได้แก่ บุคคลบางคนข้างแรมเกิดความกำหนัด ยินดีกระวนกระวายด้วยอำนาจแห่งอกุศลกรรม เมื่อถึงข้างขึ้น ความกระวนกระวายนั้นก็หายไป ๕ นปุงสกับบัณเฑาะก์ ได้แก่ ผู้ที่ไม่มีเพศหญิงเพศชายไม่ปรากฏทั้ง ๒ เพศ มีแต่ช่องที่สำหรับถ่ายปัสสาวะเท่านั้น --- โอปักกมิยบัณเฑาะก์ กับ นปุงสกับบัณเฑาะก์ ห้ามบวช --- อาสิตตบัณเฑาะก์ และ อุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ถูกห้ามบวช ปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบวชให้ระหว่างเวลาที่ถึงกาลมีกำหนัดราคะเกิดขึ้น ถ้าเป็นเวลาที่จิตใจสงบระงับจากความปรารถนากามราคะต่อเพศเดียวกัน สามารถบวชให้ได้ บัณเฑาะก์ ๓ พวกนี้ ยังพอมีทางที่จะปฏิบัติจนหลุดพ้นจากบ่วงผูกมัดตนในการหลงใหลในเพศเดียวกัน --- ด้วยความเห็นส่วนตัว ยังเชื่อว่าผู้มีราคะแก่กล้า ประพฤตินอกจารีตในทางเสพกามและยั่วยวนชายอื่น นั่นคืออันตรายต่อผ้าเหลืองเป็นอย่างยิ่ง ข้อห้ามระหว่างพระกับสีกานั้นมี ข้อห้ามระหว่างพระกับบุรุษด้วยกันไม่มี ถ้ากะเทยไม่ถูกพระวินัยห้าม จะช้าจะเร็ว อะไรก็เกิดวิปริตขึ้นได้ หากธรรมะไม่มีพลังพอที่ข่มขาดปรารถนาราคะต่อชายด้วยกันให้สะบั้นลงไป --- จริงๆแล้วการอนุญาตกะเทยบวชก็พอเป็นเหตุเป็นผลได้เช่นกัน แต่ทำไมไม่มีพระวินัยบังคับกะเทย หลังบวชเป็นพระแล้ว ว่าจะต้องวางตัวอย่างไรในสังคมผ้าเหลือง พระกับชียังมีข้อบังคับ ทั้งห้ามและอนุญาต ให้วางตัวได้อย่างไรแบบไหน ---- ทั้งกะเทยและบุรุษแท้ต่างก็มีกิเลศราคะเหมือนกัน บุรุษแท้มีราคะกับสตรีแท้ กะเทยมีราคะกับบุรุษเพศเดียวกัน คนทั้ง ๒ ชนิดนี้มีราคาเท่ากัน ต่างต้องลงมือปฏิบัติขจัดราคะด้วยกันเช่นกัน ---- จะว่าไปแล้วการบวชเพื่อปฏิบัติธรรมนั้น สามารถทำได้หลายระดับ บวชชี บวชผ้าขาว หรือบวชใจเป็นฆราวาสรักษาศีลปฏิบัติธรรม ทุกคนทำได้ไม่มีข้อห้าม แต่บวชเพื่อห่มผ้าเหลืองนั้นกะเทยไม่ควรทำ --- พระกับสีกามีพระวินัยห้ามมากหลายข้อ ยังเรียกว่ามีข้อบังคับช่วยป้องปรามไว้ไม่เกิดการกระทำผิดทางกามราคะทางกาย ระหว่างพระ(บุรุษ)กับสีกา(ผู้หญิง) แต่พระกับบรุษด้วยกันไม่มีวินัยห้าม คนเป็นกะเทยเมื่อไม่มีข้อบังคับป้องปรามกระทำผิดทางกามราคะทางกาย เพียงเพราะตีความว่าเป็นคนเพศเดียวกัน คือเป็นบุรุษ ก็เท่ากับเปิดช่องทางให้โอกาสกระทำผิดทางกามราคะเกิดขึ้นได้ง่ายเกินไป อย่างนี้ไม่ถูกต้องแน่ -- ต้องตรวจดูพระวินัยหมวดอื่นๆข้ออื่นๆประกอบการพิจารณาเรื่องกะเทย --- ฝากปราชญ์ผู้รู้วินิจฉัยและวิจารณ์ต่อไป --- อย่างน้อยก็จะถือเอา ม. 44 "โลกวัชชะ" มาลองใช้ดู ถ้าสังคมติเตียนว่าไม่ดีไม่ถูกต้องก็ควรให้เลิก เว้นแต่สังคมในวันนี้ไม่ถือสาหาความกะเทยบวชพระก็แล้วไป https://www.facebook.com/LaoSpy/videos/pcb....e=3&theater -------------------- อฺตตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถนญฺญมนุสาสติ สุทนฺโต วต ทเมถ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม
สอนผู้อื่นเช่นใดพึงสอนตนเช่นนั้น ผู้ฝึกตนดีแล้วควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่าตนแลฝึกยาก (พุทธ)ขุ.ธ.๒๕/๓๖ |
|
|
![]() ![]() |
![]() |
ไม่มีภาพประกอบ | IPB Thai v1.236.Fx1: 15th April 2021 - 03:37 AM |